เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลางของพรรค ได้นำคณะไปปราศรัยหาเสียงเพื่อสนับสนุนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคพลังประชารัฐ โดยมีมวลขนเข้าร่วมรับฟังประมาณ10,000 คน และมีผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย ทั้ง 7 คนนำโดย นางรัตนา จงสุทธานามณี ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 1 ไปร่วมด้วย ซึ่งนายสนธิรัตน์ได้ขึ้นปราศรัยก่อนโดยได้หยิบยกเหตุผลของการขอให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในพื้นที่ จ.เชียงราย ว่าเพื่อเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เคยมีอดีต ส.ส.เป็นกลุ่มก้อนมาจากพรรคการเมืองเดียวกันแต่ยังไม่สามารถทำให้มีการพัฒนาเท่าที่ควรจะเป็น แต่หากเลือกผู้สมัครของพรรคก็ยืนยันว่าจะสานต่อการพัฒนาที่รัฐบาลชุดปัจจุบันดำเนินการได้อย่างแน่นอน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เชียงรายมีศักยภาพทั้งด้านการเป็นเมืองเศรษฐกิจค้าชายแดน การเกษตร พืชผลอุดมสมบูรณ์ และยังมีวัฒนธรรมล้านนาที่เข้มแข็งแต่กลับไม่เติบโตและเจริญน้อยกว่าจังหวัดใกล้เคียงโดยเฉพาะช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กระทั่งช่วง 4 ปีหลังมานี้รัฐบาลรักษาการนำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศพึ่งจะทำให้มีการพัฒนามากขึ้นทั้งการได้โครงการรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย ที่รอคอยกันมานานหลายสิบปีแล้ว เขตเศรษฐกิจพิเศษก็มีความเป็นรูปธรรมขึ้น ประชาชนก็ได้รับบัตรสวัสดิการซึ่งหากได้รัฐบาลชุดใหม่ที่ไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปแต่พรรคพลังประชารัฐมีแนวทางจะสานต่อแล้วโดยหากได้กลับมาเป็นรัฐบาลก็จะเพิ่มสวัสดิการให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่านอกจากบัตรสวัสดิการดังกล่าวแล้วยังทราบว่าประชาชนจำนวนมากเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านเพราะกู้ยืมกันไปมาจนเป็นหนี้แล้วหันไปสู่หนี้นอกระบบอีก ดังนั้นหากได้เป็นรัฐบาลก็มีแนวทางจะพักชำระหนี้กองทุนดังกล่าวเป็นเวลา 3 ปีเพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้สาเหตุที่ต้องเลือกพรรคนี้ก็เพื่อความสงบของสังคมไทย เพราะในอดีตบ้านเมืองมีความวุ่นวายซึ่งหากเป็นเช่นนี้จะพัฒนาไปได้อย่างไร ทั้งนี้ดูได้จากรอบ 4 ปีที่ผ่านมาพบว่าเมื่อบ้านเมืองสงบก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 38 ล้านบาท ทั่วโลกให้การยอมรับเศรษฐกิจและความมั่นคงของไทยจึงเชื่อมั่นว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน
นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่าหากว่าประชาชนเลือกผู้สมัคร ส.ส.คนเดิมก็จะได้แบบเดิมซึ่งตนไม่อยากจะว่าว่าเป็นอย่างไรแต่ชาวเชียงรายคงทราบกันดีอยู่แล้ว ขณะที่หากเลือกนางรัตนาก็จะได้คนดีที่อยู่คู่กับประชาชนมาอย่างยาวนานก็จะทำให้บ้านเมืองไม่ต้องมีความขัดแย้ง ได้คนดีเป็นตัวแทนของจังหวัด ได้ พล.อ.ประยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้บัตรสวัสดิการที่จะมีการต่อยอดออกไปอีก ขณะที่ในปัจจุบันมีผู้ที่แข่งขันกันเป็นนายกรัฐมนตรี 3 คนคือนางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ จากพรรคเพื่อไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ และ พล.อ.ประยุทธ เท่านั้น
นายอนุชา กล่าวว่าน่าสงสัยว่าเหตุใดที่ผ่านมาประชาชนจึงยังคงมีความยากจนอยู่แสดงว่ากลไกของสังคมมีปัญหา ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐจึงมาช่วยแก้ไขปัญหา โดยกรณีของข้าวนั้นมีแนวทางจะให้ชาวนาได้เงินไร่ละ 2,000 บาท ได้ค่าปลูก 1,500 บาท ส่วนหญิงตั้งครรภ์จะได้รับ 3,000 บาท เมื่อคลอดบุตรแล้วจะได้รับ 10,000 บาท และได้ค่าเลี้ยงดูตั้งแต่แรกเกิดเดือนละ 2,000 บาท เป็นต้น
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าที่ผ่านมาคนเชียงรายได้สนับสนุนพรรคใดพรรคหนึ่งให้เป็นรัฐบาลมาแล้ว จึงสงสัยว่าเชียงรายได้มีการพัฒนาขึ้นหรือไม่ แต่หากเปลี่ยนแปลงยืนยันว่าจะมีการพัฒนาขึ้นโดยให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ
ด้านนางรัตนา ได้กล่าวถึงนโยบายของพรรค สวัสดิการช่วยเหลือหญงตั้งครรภ์ การจะได้รับสิทธิจากรัฐบาลมากขึ้น รายละเอียดของบัตรพลังประชารัฐซึ่งพรรคพลังประชารัฐสามารถสานต่อได้หากได้เป็นรัฐบาล รวมทั้งระบุว่าที่ผ่านมาเชียงรายมี ส.ส.จำนวน 7 คนแบบเดิมและหากประชาชนต้องการเปลี่ยนแปลงก็ให้เลือกในวันที่ 24 มี.ค.นี้ได้ รวมทั้งขอบคุณรัฐบาลปัจจุบันที่อนุมัติโครงการรถไฟมา จ.เชียงราย ได้สำเร็จหลังจากรอกันมานาน ฯลฯ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งนี้ เชื่อว่า ผู้สมัคร ในเขตเชียงราย จะได้ 4-5เขตอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องที่ทุกพรรคบอกว่า ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ เป็นนายกคนต่อไป ก็เป็นสิทธิ์ของพรรคนั้น แต่พรรคพลังประชารัฐได้เสียงข้างมากแน่นอน ทั้งนี้ที่พรรคเพื่อไทย นำข้อความที่ว่า เอาลุงคืนไป เอาสตางค์คืนมา ก็เป็นสโลแกน โค้งสุดท้ายของพรรคการเมือง และเชื่อว่า ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐทั่วประเทศ ก็จะได้ ส.ส. จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
นางรัตนา จงสุทธานามณี ผู้สมัคร ส.ส. เชียงราย พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ก็เดินหน้าหาเสียงอย่างเต็มที่ ซึ่งการหาเสียงนั้น ก็เน้นการขอเปลี่ยนเพื่อชาวเชียงราย และกลับมาทำหน้าที่ ส.ส.อีกครั้ง /////